ธปท.แจงยิบเงินปริศนาในบัญชีดุลชำระเงิน เผยเป็นเงินสีเทาหรือไม่เป็นก็ได้

2025-09-24 HaiPress

แบงก์ชาติ แจงยิบเงินปริศนาในบัญชีดุลชำระเงินหายไปไหน อัปเดตข้อมูลปรับปรุง NEO ล่าสุดลดลงจาก 3 สาเหตุ ชี้อาจมีเงินสีเทาหรือไม่มีก็ได้

วันที่ 23 ก.ย. “ชญาวดี ชัยอนันต์” ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงานแถลงข่าวการปรับปรุงข้อมูลในบัญชีดุลการชำระเงิน ระบุว่า ธปท.ได้ปรับปรุงข้อมูลในบัญชีดุลการชำระเงินปี 2567 ซึ่งเป็นการปรับปรุงเป็นปกติ ไม่ได้ปรับเฉพาะกิจเพราะตัวเลขผิดปกติแต่อย่างใด โดยตัวเลขที่แสดงความคลาดเคลื่อนเชิงสถิติ (Net Errors and Omissions : NEO) หรือเรียกว่าเงินที่ไม่รู้แหล่งที่มานั้น มีการปรับลดลงจากตัวเลขที่เคยประกาศเดือนมีนาคมที่ผ่านมาซึ่งอยู่ระดับสูงจนผิดปกติ

ทั้งนี้ ตัวเลข NEO ที่ปรับปรุงในเดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 7,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.3 แสนล้านบาท ปรับลดลงจากเดือนมีนาคม 2568 ที่มีสูง 15,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.7 แสนล้านบาท โดยสาเหตุที่ปรับลดลงมี 3 ส่วนหลัก ได้แก่

มูลค่านำเข้ารวมที่ลดลง จากการที่กรมศุลกากรปรับราคาน้ำมันนำเข้าให้เป็นไปตามที่ได้รับข้อมูลจริงจากผู้นำเข้า ซึ่งต่ำกว่าราคาที่กรมศุลกากรได้ประมาณการไว้ในตอนแรก ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account) เพิ่มขึ้น และทำให้ NEO ลดลงไปประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลการลงทุนโดยตรงของนักลงทุนต่างชาติ (FDI) ที่สูงขึ้น ซึ่งปรับตามข้อมูลการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในธุรกิจไทย ที่ปรากฏในงบการเงินที่ธุรกิจทยอยรายงานต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ส่งผลให้ NEO ลดลงไปประมาณ 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลสินเชื่อการค้า (Trade Credit) ที่เพิ่มขึ้น จากการที่เจ้าหนี้การค้าขยายระยะเวลาการชำระค่าสินค้านำเข้าให้กับภาคเอกชน ทำให้ภาระการจ่ายคืนสินเชื่อการค้าในปี 2567 ลดลง ส่งผลให้ NEO ลดลงประมาณ 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“การปรับปรุงล่าสุด ได้ปรับลดลงมากกว่าครึ่ง รวมถึงทุกรอบหากประเมินว่าเยอะหรือน้อย ดูตัวเลขเฉยๆ อาจไม่ถูกต้องตามหลักการ ถ้าประเทศไทยเปิดประเทศเยอะ มีการค้าการลงทุนต่างประเทศเยอะ หรือมีธุรกรรมระหว่างกันเยอะ จะสามารถทำให้โอกาสให้หาที่มายากไปด้วย เช่น ประเทศมีการค้าการลงทุนประเทศอื่นเยอะ NEO ก็สูงตาม อาจต้องดู NEO จากสัดส่วนการค้าระหว่างประเทศ”

“ชญาวดี” กล่าวว่า NEO เป็นการคลาดเคลื่อนเชิงสถิติที่เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับต่างประเทศ อาจไม่ได้เป็นเทาทั้งหมด แต่เป็นวิธีการวัด หรือพฤติกรรมการค้า หรือเทรดเครดิตเปลี่ยนไป โดยธปท.อยู่ระหว่างศึกษาปรับให้แม่นย้ำมากขึ้น ยืนยันว่า NEO เป็นตัวเลขส่วนหนึ่งของดุลการชำระเงินที่แจกแจงไม่ได้ปี 2567 ไม่ใช่ปีนี้ ตัวธุรกรรมที่เกิดขึ้น และ NEO ไม่ได้กดดันค่าเงินบาท เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าแค่ 0.1%

“ตัวอย่างบริษัทต่างชาติ กรรมการท่านหนึ่งมีธุรกิจสีเทา นำเงินเข้ามาลงทุนตลาดหุ้นไทย ผ่านหรือไม่ผ่านตัวกลาง โดยส่วนนี้จะเก็บข้อมูลได้ ซึ่งมีข้อมูลและอาจจะเป็นเทาได้ หรือไม่เทาก็ได้ และหากมิจฉาชีพนำเงินมาซื้อทอง ไปซื้อในร้านรายย่อย ซึ่งการรู้จักและยืนยันตัวตนลูกค้ามีน้อย และอาจนำทองกลับประเทศไป ซึ่งอาจเป็นความเทาได้ ดังนั้นความเทาอาจอยู่ได้ในหลายที่ไม่ใช่แค่ NEO หรือการใช้คริปโต มีการโอนซื้ออสังหาฯ โดยต่างชาติเอาคริปโตมาซื้อคอนโดฯ ซึ่งจะเห็นการซื้อคอนโดฯ แต่ไม่เห็นรูปแบบการใช้จ่าย”

ดังนั้นการตรวจสอบว่าเป็นธุรกรรมเทาหรือเปล่านั้น ธปท.ได้ประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยธปท.มีหน้าที่กำกับหากธุรกรรมต้องสงสัย ส่งไปยัง ปปง.ตรวจสอบ

สำหรับข้อมูลในบัญชีดุลการชำระเงินรายปี ธปท. จะเผยแพร่ตัวเลขเบื้องต้นในเดือนมีนาคมของปีถัดไป จากนั้นจะปรับปรุงข้อมูลอีก 2 ครั้ง ในทุกเดือนกันยายน ตัวอย่างเช่น การจัดทำข้อมูลของปี 2567 จะเผยแพร่ครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 2568 และจะปรับปรุงข้อมูลอีก 2 ครั้ง ในเดือนกันยายน 2568 และเดือนกันยายน 2569

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap