ไทยเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ คาดใช้เวลา 2-3 ปี หวังกลับมาเติบโตตามศักยภาพ

2025-08-19 HaiPress

สศช. ชี้ไทยต้องเร่งปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ถ้าหวังเติบโตตามศักยภาพ คาดใช้เวลา 2-3 ปี ดึงอุตสาหกรรมใหม่เข้ามา ปรับโครงสร้างการผลิตและการส่งออก

วันที่ 18 ส.ค. นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ขยายตัว 2.8% ครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 3% ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 1.8-2.3% หรือค่ากลาง 2% มากกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 1.8% เนื่องจากสถานการณ์การส่งออก ลงทุนเอกชนดีขึ้น การผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น และมีความชัดเจนมาตรการภาษีทรัมป์มากขึ้น ทำให้แนวโน้มช่วงถัดไปเศรษฐกิจไทย ขยายตัวได้ดีกว่าประมาณการไว้ในเดือน พ.ค.

ทั้งนี้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ การลงทุนรัฐและเอกชนจะเป็นตัวขับเคลื่อน โดยต้องเร่งรัดปรับปรุงกฎระเบียบ การส่งออกให้สามารถขยายตัวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันต้องเร่งทำการตลาดการท่องเที่ยว ต้องสร้างกิจกรรมใหม่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น ดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินนักท่องเที่ยว

ขณะเดียวกันคาดการณ์นักท่องเที่ยวลดลงจาก 37 ล้านคน เหลือ 33 ล้านคน จากตัวเลขไตรมาสสองลดลง 12% และนักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาอย่างที่คาดไว้ โดยคาดนักท่องเที่ยวจีนจะมา 4 ล้านคนจากกว่า 6 ล้านคน

นอกจากนี้ มองปัญหาเศรษฐกิจไทยมาจากปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ หากจะให้เศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้นตามศักยภาพกว่า 3% ต้องเร่งปรับโครงสร้าง โดยขณะนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่อง เช่นการดึงอุตสาหกรรมใหม่เข้ามา ปรับโครงสร้างการผลิตในประเทศและให้การส่งออกทำได้ดีขึ้น คาดต้องใช้เวลา 2-3 ปี

ขณะที่เรื่องมาตรการภาษีสหรัฐที่เกิดขึ้น มองเป็นโอกาสสำคัญของไทยที่จะเร่งปรับโครงสร้างการผลิตของประเทศ สร้างซัพพลายเชนกว้างขึ้น เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีขึ้น

เช่นเดียวกับผลิตภาพแรงงานต้องปรับปรุงไปด้วย สร้างศักยภาพแรงงานไทย โดยเฉพาะสาขาความต้องการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เร่งผลิตบุคลากร เร่งปรับระบบการผลิตช่วยลดต้นทุน ใช้ระบบออโตเมชั่น โรบอท มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวได้ตามศักยภาพที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตามผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อเศรษฐกิจไทยไม่ได้กระทบมาก เพราะไม่ใช่พื้นที่การผลิต แต่ปัญหาจะกระทบระดับพื้นที่มากกว่า เช่น การค้าชายแดน ซึ่งจะเป็นปัญหาของเอกชน ผู้ค้ารายย่อยชายแดน และเรื่องแรงงานภาคอุตสาหกรรม ที่แรงงานกัมพูชาเดินทางกลับไปประเทศ ทำให้ตอนนี้กระทรวงแรงงานได้ดึงแรงงานประเทศอื่นเข้ามาทดแทนได้ มองว่าผลกระทบความขัดแย้งไม่ได้กระทบเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap