เอกชนขอบคุณจากใจ กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% ช่วยเอสเอ็มอี รับกังวลบาทแข็งโป๊ก

2025-08-14 HaiPress

ส.อ.ท. ปลื้มกนง.หั่นดอกเบี้ย 0.25% ช่วยเอสเอ็มอี ช่วยพยุงเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ลดภาระต้นทุน รับกังวลเงินบาทแข็ง หวั่นกระทบส่งออก กระเทือนท่องเที่ยว

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ทำให้เหลือ 1.50% ว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะถือว่าเป็นการพิจารณาตามสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันได้อย่างเหมาะสม ต้องขอบคุณ กนง. ที่ร่วมกันพิจารณาและลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงครั้งนี้ สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริง เพราะต้นทุนของผู้ประกอบการที่นอกจากต้นทุนพลังงาน ค่าขนส่งแล้ว ต้นทุนทางการเงินถือเป็นต้นทุนที่สำคัญในเรื่องของค่าใช้จ่าย ถือเป็นภาระทางการเงินที่สำคัญให้เบาบางลงได้


อย่างไรก็ตาม การปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคธุรกิจ และผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยลดภาระทางด้านต้นทุนทางด้านการเงินให้กับผู้กู้ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยที่ผ่านมาเอสเอ็มอี ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีสหรัฐ และเงินบาทที่แข็งค่ากว่าสกุลเงินในภูมิภาค ซึ่งภาคเอกชนยังกังวลเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยหวังให้ ธปท. ออกมาตรการควบคุมค่าเงินควบคู่ไปกับนโยบายดอกเบี้ย ซึ่ง กนง. เองย้ำมาโดยตลอดว่าต้องรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงิน เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต 


“ภาคเอกชนส่งสัญญาณมาตลอดว่าหากการออกมาตรการล่าช้าเกินไป อาจไม่ทันการณ์ เนื่องจากการส่งผ่านผลของดอกเบี้ยนโยบายสู่ตลาดต้องใช้เวลาหลายเดือน การตัดสินใจของ กนง. ในวันนี้จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจกำหนดทิศทางเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 2568 ท่ามกลางความท้าทายจากภายนอกและภายในประเทศ”

ทั้งนี้ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่ผ่านมา การส่งออกของไทยเติบโตถึง 15% ทำให้ผู้นำเข้าสินค้าในสหรัฐ ต้องรีบสั่งออร์เดอร์และกักตุนสินค้า เนื่องจากความกังวลต่อภาษีนำเข้าศุลกากรสหรัฐ และเมื่อขณะนี้ไทยได้ตัวเลขภาษีสหรัฐ ที่ 19% เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเชื่อว่าการส่งออกครึ่งปีหลังจะลดลงอย่างมาก 

“ช่วงที่เหลือของปีนี้ ภาครัฐจะต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดึงภาคท่องเที่ยวให้กลับมาให้ได้ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยลดลงถึง 6% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีก่อน ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินการคลังจึงเป็นอีกวิธีการที่สำคัญ”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap