2025-07-25
HaiPress
คาดเศรษฐกิจไทยเสียหาย 55,000 ล้านบาท จากเหตุไทย – กัมพูชาปะทะหนัก ด้านนักธุรกิจไทยที่ลงทุนในกัมพูชา จับตาใกล้ชิดจะอยู่ต่อหรือกลับไทย ภาวนาขอให้จบเร็ว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การปะทะของไทย-กัมพูชา ที่ชายแดน โดยฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เริ่มก่อน ว่า ผลกระทบต่อการค้าชายแดนของไทยจากเหตุปะทะชายแดนกัมพูชา โดยปัจจุบันไทยมีการค้าผ่านแดนกับกัมพูชาผ่านจุดผ่านแดนถาวรหลักๆ 5 ด่าน คือ ด่านอรัญประเทศ คลองใหญ่ ช่องจอม จันทบุรี และช่องสะงำ หากเหตุการณ์ปะทะรุนแรงจนต้องปิดด่านทั้ง 5 แห่ง คาดว่าจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยเดือนละ 11,000 ล้าน และหากเหตุการณ์ยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นปีนี้ อาจจะสร้างความเสียหายรวมประมาณ 55,000 ล้านบาท
ทั้งนี้การค้าขายผ่านทั้ง 5 ด่าน เป็นการค้าขายทางบก แต่หลังจากเกิดปัญหาความขัดแย้ง ผู้ค้าได้มีการปรับรูปแบบการค้า เป็นการค้าและส่งออกผ่านทางอากาศ และทางเรือแทน อาจจะทำให้ความเสียหายด้านการค้า 2 ฝ่ายลดดลง โดยจะต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าเหตุปะทะจะยืดเยื้อรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ไทยได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและลดระดับความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชาแล้ว
นายวรทัศน์ ตันติมงคลสุข ประธานสภาธุรกิจไทย-กัมพูชา กล่าวว่า การปะทะกันของ 2 ฝ่าย ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก เศรษฐกิจการค้าชายแดนก็เสียหายเพิ่ม รวมไปถึงชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ขณะที่นักธุรกิจไทยในกัมพูชา ก็ต้องประเมินสถานการณ์ว่าควรกลับมาไทยหรืออยู่ต่อ ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าของธุรกิจ ซึ่งอยากให้ทั้ง 2 ฝ่าย หาทางเจรจาให้ยุติเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายเลวร้ายไปมากกว่านี้ เพราะจะทำให้เกิดความสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย และขอให้กลับมาสู่จุดเริ่มต้นก่อนที่จะเกิดปัญหา
“สถานการณ์การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ผ่านมาไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังคงเหมือนเดิม หลังจากที่ไทยใช้มาตรการจำกัดเวลา ทั้งการเข้าการออกของประชาชนของ 2 ประเทศ ส่วนสินค้าก็ไม่สามารถส่งออกได้ ต้องหาเส้นทางอื่นแทนในการส่งสินค้าไปยังกัมพูชา ซึ่งมูลค่าการค้าที่หายไปก็ตกวันละ 500 ล้านบาท ผ่านมา 6 เดือนแล้ว ก็ยังเป็นเหมือนเดิม”