STARK ยังเดือด! ผู้เสียหายเดินหน้าร้องสภา เชิญก.ล.ต.ชี้แจง

2025-07-23 HaiPress

STARK ยังเดือด! ผู้เสียหายเดินหน้าร้องสภา เชิญ ก.ล.ต.ชี้แจง หลังลงดาบปรับบลจ.เงินกว่า 2 ล้านบาท

นายณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาให้กับทุนรายย่อยหุ้นที่เป็นผู้เสียหายจากการลงทุนในหุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) STARK เปิดเผยว่า ล่าสุด 11 กรกฎาคม 2568 ตัวแทนผู้เสียหายได้เข้าชื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน สภาผู้แทนราษฎร ให้เชิญ ก.ล.ต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลว่า การลงโทษเปรียบเทียบปรับ บลจ.และผู้บริหารดังกล่าวเป็นกรณี STARK ใช่หรือไม่ หากใช่ก็จะได้เรียกร้องให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อนักลงทุนผู้เสียหายต่อไป และร้องขอให้ ก.ล.ต.ได้เปิดเผยกรณีนี้ต่อนักลงทุนและสาธารณชน อย่างเปิดเผยโปร่งใสต่อไป

โดยกรณีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ ก.ล.ต.ได้รายงานว่า ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับกองทุน บลจ.แห่งหนึ่ง เป็นเงิน 2,091,750 บาท ระบุกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ มาตรา 117 กล่าวคือระหว่างวันที่ 27 มกราคม 2566–28 ตุลาคม 2568 บลจ.ดังกล่าว มีระบบการจัดการลงทุนในเรื่องการวิเคราะห์ทบทวนและติดตามคุณภาพหลักทรัพย์ ไม่รัดกุมเพียงพอ

วันเดียวกันได้เปรียบเทียบปรับผู้บริหาร บลจ.ดังกล่าว 2 ราย รายแรกมีตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) อีกรายเป็นประธานคณะกรรมการการลงทุนของ บลจ. โดยปรับรายละ 112,500 บาท ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ มาตรา 283 วรรค 1 และมาตรา 117 กล่าวคือ มีหน้าที่กำกับดูแลให้มีระบบงานการจัดการลงทุนในเรื่องการวิเคราะห์ทบทวนและติดตามคุณภาพหลักทรัพย์ให้รัดกุมเพียงพอตามเงื่อนไขที่ประกาศกำหนด แต่ไม่สั่งการหรือไม่กระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ จึงต้องรับผิดกรณี บลจ. มีระบบงานการจัดการลงทุนในเรื่องการวิเคราะห์ทบทวนและติดตามคุณภาพหลักทรัพย์ไม่รัดกุมเพียงพอตามเงื่อนไขที่ประกาศกำหนด

อย่างไรก็ตามเมื่อย้อนไปเมื่อ 24 กรกฎาคม 2566 ตัวแทนผู้เสียหายในการลงทุนหน่วยลงทุน LTF ของกองทุน บลจ.แห่งหนึ่งเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ก.ล.ต. ขอให้ลงโทษต่อ บลจ.แห่งนั้น เนื่องจากนำเงินไปลงทุนหุ้น STARK เกิดผลเสียหายราว 3,500 ล้านบาท ฐานความผิด ไม่ได้จัดการกองทุนด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน แต่หลังยื่นหนังสือไปแล้วเกือบหนึ่งปี ก.ล.ต.มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาต่อผู้เสียหายว่า ในชั้นนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่า บลจ.ดังกล่าว มีพฤติกรรมดังที่กล่าวหา หากท่านมีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่จะแสดงให้เห็นถึงการมีพฤติกรรมตามที่ระบุ ขอให้นำส่งให้ ก.ล.ต.เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยหากมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย จะพิจารณาดำเนินการ และเปิดเผยทางเว็บไซต์ต่อไป

ดังนั้นเมื่อ ก.ล.ต. ได้ออกประกาศเปรียบเทียบปรับตามที่กล่าวในข้างต้น ทางผู้เสียหายในการลงทุนหน่วยลงทุน LTF ที่เคยยื่นหนังสือให้ ก.ล.ต. ลงโทษ บลจ.แห่งนั้น จึงต้องการทวงถามความชัดเจนเพื่อนำมาสู่การเรียกร้องในขั้นตอนต่อไป

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap