จี้รัฐแจ้งคนไทยให้ชัดภาษี 36% ‘เรื่องใหญ่’ ใครกระทบ เหตุต้องเฉือนบางส่วนให้ส่วนใหญ่อยู่รอด

2025-07-11 IDOPRESS

นักวิชาการชี้ภาษีทรัมป์ 36% รัฐต้องสื่อสารประชาชนให้ชัดวาระใหญ่ที่ทุกคนต้องใส่ใจ ใครกระทบบ้าง มองเสียหายหนัก ปีละ 3.5-6 แสนล้านบาท ต้องเรียกทุกหน่วยงานเศรษฐกิจ พร้อมนักวิชาการหัวกะทิ ไม่ใช่แค่ทีมไทยแลนด์ ถกปัญหาหาทางออกร่วม ยอมตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต

จากกรณีที่สหรัฐอเมริกาได้แจ้งอย่างเป็นทางการว่าจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยในอัตราสูงถึง 36% ครอบคลุมสินค้าทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นอัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดที่สูงกว่าที่ภาคเอกชนประเมินไว้ และสูงกว่าหลายประเทศคู่แข่งในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม (20%) อินโดนีเซีย (32%) และมาเลเซีย (25%) ซึ่งสะท้อนว่าไทยกำลังเสียเปรียบในเชิงการแข่งขัน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น ศูนย์ฯ เคยประเมินว่า ถ้าไทยถูกสหรัฐเก็บภาษีตอบโต้ที่ 36% มูลค่าการส่งออกของไทยจะหายไป 350,000-600,000 ล้านบาทต่อปี ภายใต้เงื่อนไขว่า ประเทศคู่แข่งอื่นๆ ในตลาดสหรัฐ ถูกเก็บในอัตราใกล้เคียงกัน แต่หากคู่แข่งถูกเก็บน้อยกว่า ไทยอาจเสียหายมากกว่านี้ เพราะสินค้าไทยจะเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่ง เช่น ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ที่มีมาเลเซียเป็นคู่แข่ง และมาเลเซีย ถูกเก็บเพียง 25% สหรัฐก็จะนำเข้าจากมาเลเซียแทนไทย

สำหรับความเสียหายในปีนี้ หรืออาจนับจากเดือน ก.ค. 68 ที่คำสั่งซื้อชะลอลง เพราะผู้ส่งออกและผู้นำเข้าไม่มั่นใจอัตราภาษีที่จะถูกเก็บ และไม่กล้าตกลงราคาซื้อขายกัน ไปจนถึงเดือน ธ.ค.นี้ มูลค่าส่งออกอาจหายไป 100,000-200,000 ล้านบาท มากกว่าเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลเตรียมเดินหน้าดำเนินการ ซึ่งจะมีโอกาสทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวต่ำกว่า 1.5% ได้

ส่วนสินค้าที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด จะเป็นสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐมูลค่ามาก เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ,เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ และส่วนประกอบ,ผลิตภัณฑ์ยาง,อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด,หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ,เครื่องจักรกล,อัญมณีและเครื่องประดับ,รถยนต์,เครื่องใช้ไฟฟ้า,เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาโดยด่วน กระตุ้นเศรษฐกิจให้มากกว่าเดิม ใช้นโยบายการเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยลดดอกเบี้ยนโยบาย และปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น

“ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องเรียกหน่วยงานต่างๆ ของไทย ทั้งสภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงนักวิชาการระดับหัวกะทิ ต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน หรือทำสมมุติฐานให้เห็นว่า ที่เราถูกเก็บ 36% ไทยเสียหายอย่างไร ใครได้รับผลกระทบบ้าง มีแนวทางแก้ไขเยียวยาอย่างไร หรือถ้าเรายอมเปิดตลาดสินค้าหลายๆ รายการ ตามที่สหรัฐเรียกร้อง ใครจะได้รับผลกระทบบ้าง ไทยจะยอมตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตหรือไม่ เรื่องนี้ต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับคนไทย เพราะเกี่ยวข้องกับความสุข และความทุกข์ของคนไทยทุกคน”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap