2025-05-27
IDOPRESS
ตลท.ลุ้นลงทุนรัฐปลุก SET ไทย พร้อมเล็งหาธุรกิจใหม่เข้าจดทะเบียน
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 68 นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยในงานเสวนา “เดลินิวส์ ทอล์ก 2025” หัวข้อ “ปลุกเสน่ห์หุ้น-คริปโทฯ ครึ่งปีหลัง 2025” ว่า จากนี้ไปมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีเสน่ห์ตลอด มีกิจการหลายบริษัทเจริญเติบโตและอาจต้องค้นหาวิเคราะห์ข้อมูลให้ชัดขึ้น ถ้าการลงทุนกลับมาจะเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐเป็นตัวกระตุ้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ไปเจอนักลงทุนต่างประเทศมา ทุกคนบอกว่ายังมีความคาดหวังกับเมืองไทย โดยอยากเห็นแผนการลงทุนไทยในโครงสร้างพื้นฐานรถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นความมั่นใจ
ขณะเดียวกันภาคเอกชนเองก็อยากกระตุ้นให้ลงทุน ซึ่ง ณ วันนี้จะเห็นว่าประเทศไทยเรายังกินอยู่สบาย ราคาอาหารไม่แพง แต่ย้อนไปหลายปีผ่านมาการลงทุนภาครัฐยังค่อนข้างน้อย ฉะนั้นหนึ่งในโครงการที่ ตลท.จะปลุกขึ้นมา ก็คือ การจัดทำโปรแกรมจั๊มป์พลัสให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) กลับมาวิเคราะห์ตัวเองว่าเราจะโตไปข้างหน้าอย่างไร โตอย่างไร อยากให้วางแผนอย่างชัดเจนและตั้งเป้าหมายว่าใน 3 ปีจะลงทุนอะไร และการลงทุนนั้นๆ จะสร้างผล เพิ่มมูลค่าให้กิจการได้เท่าไหร่ จึงอยากให้มาเตรียมพร้อมและสื่อสารให้นักลงทุนทราบว่าทุกไตรมาส ทุกเดือนประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน เพื่อสร้างเสน่ห์ให้กับหุ้นไทย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทุกคนมีความเข้าใจผิดและมองว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้หุ้นขึ้นได้ แต่หนึ่งในหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ สร้างทางเลือก ยกตัวอย่าง เช่น DR ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อหุ้นที่น่าสนใจในต่างประเทศด้วยเงินบาท ผ่านบัญชีหลักทรัพย์ไทย และทางด้านกฎเกณฑ์เราก็ต้องปรับปรุงสม่ำเสมอ เพราะตลาดทุนมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ และคอยนั่งดูพฤติกรรมในตลาดทุนที่เราไม่ต้องการพฤติกรรมที่ไม่ดี อย่าง ชอร์ตเซลล์ ที่ผิดกฎ หน้าที่ของเรา คือ สร้างความเชื่อมั่น สร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมาโดยทำงานร่วมกับ ก.ล.ต.ปิดช่องโหว่เพื่อสร้างความมั่นใจเกิดขึ้นได้
ขณะเดียวกันหลายคนบอกว่าธุรกิจในตลาดทุนเป็นธุรกิจเก่าๆ อยู่เยอะ อนาคตเราจะดึงธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าสนใจและมีอัตราการเติบโตสูงเข้ามาอย่างไร ซึ่งอาจมีกฎเกณฑ์พิเศษ และกฎเกณฑ์ทางบัญชีปกป้องนักลงทุน โดยขณะนี้ได้มีการหารือกับทาง บีโอไอ ว่าหากมีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยเราจะดึงดูดธุรกิจเหล่านี้มาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้หรือไม่ เงื่อนไขอย่างไรดีที่ช่วยสร้างมูลค่าให้กับประเทศได้ โดยที่กฎเกณฑ์ต่างๆ จะวิเคราะห์ขอความคิดเห็น รับฟัง กลั่นกรองและมองสิ่งที่เหมาะสมที่สุดจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ทรัสต์ หรือความเชื่อมั่น เราจะแก้ไขให้แข็งแรงได้ด้วยการมองว่าอะไรที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ ต้องวิเคราะห์ว่าบริษัทไหนน่าลงทุนแข่งขันในอนาคตได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมจั๊มป์พลัส ให้ธุรกิจต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เติบโตก้าวกระโดดได้ ส่วนเรื่องธรรมาภิบาลก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องพูดถึงเพราะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ใหญ่ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยสะเทือน จึงต้องควบคุมในบรรษัทภิบาลและให้ทุกคนที่อยู่ในตลาดทุนไทยเข้ามารักษาชื่อเสียงร่วมกันในหลายๆฝ่าย โดยทางด้านกฎเกณฑ์ก็อยากให้รวดเร็ว รัดกุมขึ้น โดยร่วมงานกับ ก.ล.ต. และหน่วยงานต่างๆ ให้มันรัดกุมขึ้น
นายอัสสเดช กล่าวว่า ในอนาคต 4 ปีข้างหน้าอยากเห็นหุ้นไทยมีสภาพคล่องกลับมาเป็นเสน่ห์เช่นเดียวกับอดีต จากวันนี้มูลค่าการซื้อขายต่อวันลดลงมาเยอะ จากเฉลี่ยวันละ 9 หมื่นบาท ลดเหลือเฉลี่ยวันละ 4 หมื่นบาท โดยขณะนี้ได้มีการหารือกับสมาคมต่างๆ ทั้งสมาคมตลาดทุน ก.ล.ต. เพื่อวางแผนเพิ่มเสน่ห์ในอนาคตของตลาดทุนอย่างไรบ้าง ในบริบทไหนบ้าง ซึ่งจะต้องใช้เวลาและมานั่งดูทุกองค์ประกอบว่ามาจากไหนบ้าง ทั้งบริษัท นักลงทุนรุ่นใหม่ๆ และนักลงทุนสถาบันแบบใหม่จะพัฒนาอย่างไร จะสามารถดึงดูดมาจากต่างประเทศได้หรือไม่ มีกำแพงอะไรที่กีดกั้น เพราะประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนหนึ่งที่น่าสนใจ และมีโปรดักท์อื่นที่น่าสนใจที่จะต้องพัฒนาหรือไม่
อาทิ การลงทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ๆ ที่ค่อนข้างเล็กลง ณ วันนี้รายย่อยมีกำลังซื้ออยู่ที่ 500 บาท จากในอดีตต้องมีเงินหลักพันบาท และเราต้องใช้เทคโนโลยีอย่างไรช่วยเหลือนักลงทุนทั้งด้านการเข้าถึงแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ลดค่าใช้จ่ายบริษัทหลักทรัพย์อย่างไร ช่วยเหลือกันให้อยู่รอดและเติบโตไปด้วยกัน อีกทั้งใช้เทคโนโลยีอย่างไรให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลที่มีอยู่เยอะมากได้ง่ายขึ้น เช่น ใช้แชตจีพีที เพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุน โดยอยากให้ทุกอย่างโตขึ้นทั้งคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนมาระดมทุนได้สะดวกมากขึ้น และมีข้อมูลชัดเจนโปร่งใส นักลงทุนเข้าถึงได้ง่าย