“ไพบูลย์” แนะรัฐปรับโครงสร้างตลาดทุน ทำแอ๊คชั่นแพลนดึงหุ้นใหม่

2025-05-27 IDOPRESS

นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ชี้หุ้นไทยไม่แพง เมื่อเทียบกับอดีต จำนวนหุ้น 60-70% เทรดต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน แนะเร่งปรับโครงสร้างตลาด โครงสร้างหุ้นดึงนักลงทุน

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ “เดลินิวส์” ได้จัดงานเสวนา “เดลินิวส์ ทอล์ก 2025” ในหัวข้อ “ปลุกเสน่ห์หุ้น-คริปโทฯ ครึ่งปีหลัง 2025” โดยได้รับเกียรติจาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “เสน่ห์หุ้นไทย : พลังผลักดันเศรษฐกิจ” โดยมีนางประพิณ รุจิรวงศ์ นายปารเมศ เหตระกูล นางสิริวรรณ พันธุ์ปรีชากิจ กรรมการบริหาร และน.ส.นลิน รุจิรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (EVP) ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและการตลาด เดลินิวส์ ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ในเวทีเสวนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BINANCE TH BY GULF BINANCE และนางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมเสวนา ทิศทางและมุมมองของภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับทั้งด้านตลาดหุ้น ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ รวมถึงตลาดทองคำ ว่าจะมีแนวโน้มในครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร รวมทั้งอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ รวมถึงโอกาสและจังหวะในการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ

โดย นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) กล่าวว่า  หากพูดถึงเสน่ห์หาไม่ได้ง่าย แต่ในครึ่งปีหลังที่ยังมีความน่าสนใจ คือ ราคาหุ้นไทยไม่แพง เมื่อเทียบกับอดีต จำนวนหุ้น 60-70% เทรดต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม  2-3 ปี ตลาดหุ้นไทยติดลบทุกปี ขณะที่ต่างประเทศมีการเติบโตสูงกว่า  เพราะคนไม่มั่นใจกับอนาคต จึงถือหุ้นน้อยลง ขายออกมาต่ำกว่ามูลค่า แต่หากมองดูตอนนี้ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นที่น่าสนใจอยู่ในระดับหนึ่งต้องทำให้คนหรือนักลงทุนได้เห็นส่วนนี้

“รัฐบาลนี้ที่ให้ความสำคัญกับตลาดทุนมากกว่ารัฐบาลอื่นๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะมองว่า ตลาดทุนสามารถหนุนให้เศรษฐกิจเติบโตได้ ถ้ามีแผนออกมาที่ชัดเจน  นโยบายรัฐบาลทำได้จริง จะช่วยดึงการลงทุนเข้ามาได้ เช่น การลงทุนพวกดาต้าเซ็นเตอร์ หากนำเอาธุรกิจใหม่ๆ หรือเศรษฐกิจใหม่ๆ เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นได้ก็จะดึงดูดนักลงทุนได้ แต่ตอนนี้ตลาดไทยไม่มีของใหม่ๆ  การซื้อหุ้น คือ การซื้ออนาคต”

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตลาดทุนต้องล้อไปกับภาครัฐ  อยากเห็นภาครัฐมองว่าตลาดทุนสามารถเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้  ในอดีตภาครัฐใช้ตลาดทุนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจน้อยไป เช่น พวกธุรกิจใหม่ๆ สตาร์ทอัพ เราไม่ได้มีการสร้างนักลงทุนในกลุ่มนี้ แม้จะมีกลุ่มกองทุน (วีซี) ต่างๆ แต่ยังน้อย ไทยต้องเริ่มทำตอนนี้ ดีกว่าไม่ทำ ต้องคุยกับ บีโอไอ ว่า สามารถนำธุรกิจใหม่ๆ พวกดาต้าเซ็นเตอร์ ที่เข้ามาลงทุนเข้ามาในตลาดทุนได้หรือไม่

“ต้องมีการนำเงินกองทุนต่างๆ  เข้ามาสนับสนุน รวมถึงเรื่องกฎเกณฑ์ต่างๆ อำนวยความสะดวกให้ธุรกิจใหม่ๆ พวกสตาร์ทอัพมาลงทุนและจดทะเบียนในตลาดหุ้น  และแผนพัฒนาตลาดทุนที่มีอยู่ในหลายหน่วยงาน ต่างคนต่างทำ แต่ไม่มีหมุดหมายเดียวกัน ทุกฝ่ายต้องมาพูดคุยกันจริงจัง ปีหน้าถ้าปลุกเศรษฐกิจได้ สินค้าหรือหุ้นที่มีอยู่ ก็สามารถเติบโตได้ แต่จะไม่ยั่งยืน  ถ้าเศรษฐกิจโต 4-5% ก็อาจไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้เราพูดถึงเศรษฐกิจที่โตแค่ 1% กว่าๆ เท่านั้น ถ้ารัฐบาลอยากให้ตลาดทุนโตอย่างยั่งยืน หุ้นมีการปรับฐาน ต้องปรับโครงสร้างนักลงทุน โครงสร้างหุ้นในตลาด รวมถึงนโยบายของรัฐบาลด้วย”

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า หากมองว่าตลาดหุ้นขึ้นไป 2,000 จุดนั้น เป็นไปได้ แต่ต้องมีการวางแผน ซึ่งญี่ปุ่นสามารถทำได้ ไทยก็สามารถทำตามได้ แต่ต้องไม่ใช่การเมดตัวเลข ตกแต่งบัญชี  แต่คือการทำให้บริษัทต่างๆ มีผลประกอบการดี มีเงินปันผล ประกอบกับเอาธุรกิจและหุ้นใหม่ๆ เข้ามา ตามที่นักลงทุนอยากได้  และต้องหานักลงทุนยาวๆ ที่ยอมถือหุ้นยาวๆ เข้าประเทศไทย อย่างน้อยต้องใช้เวลา 5-10 ปี  และที่สำคัญต้องเปลี่ยนโครงสร้างตลาดทุน ทำให้เป็นห้างที่นักลงทุนอยากเข้ามา ต้องมีวัฒนธรรมในการลงทุน  มีการปรับเรื่องภาษี ดึงนักลงทุนเข้ามา เพื่อให้การเติบโตไปได้  กฎเกณฑ์ต้องเอื้อการลงทุน โดยต้องทำทุกอย่างร่วมกัน เพื่อให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

“รัฐบาลต้องมีแอ๊คชั่นแพลน จะทำอะไร ต้องมีเดดไลน์ ใครทำไม่ได้ก็ลาออกไป  หรือมีแผนปฏิรูปจริงๆ ถ้าที่ผ่านมา รัฐบาลมีแผนมากมาย แต่ที่ไม่เห็น คือ เดดไลน์ แต่ละเรื่อง ใครก็ได้เข้ามาทำ เมื่อครบเดดไลน์ ทำไม่ได้ก็ออกไป  โดยต้องดึงดูดเงินทุนที่สามารถลงทุนในระยะยาวเข้ามา”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap