"ทรงพล" ชี้ ต้องลงทุนระยะยาว มองหุ้นเป็นรายตัว ย้ำไม่มีนักลงทุนรายใดที่ชอบตลาดที่มีความผันผวน มีแต่นักเก็งกำไรที่ชอบความผันผวน

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ “เดลินิวส์” ได้จัดงานเสวนา “เดลินิวส์ ทอล์ก 2025” ในหัวข้อ “ปลุกเสน่ห์หุ้น-คริปโทฯ ครึ่งปีหลัง 2025” โดยได้รับเกียรติจาก นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “เสน่ห์หุ้นไทย : พลังผลักดันเศรษฐกิจ” โดยมีนางประพิณ รุจิรวงศ์ นายปารเมศ เหตระกูล นางสิริวรรณ พันธุ์ปรีชากิจ กรรมการบริหาร และน.ส.นลิน รุจิรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (EVP) ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและการตลาด เดลินิวส์ ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ในเวทีเสวนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BINANCE TH BY GULF BINANCE และนางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมเสวนา ทิศทางและมุมมองของภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับทั้งด้านตลาดหุ้น ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ รวมถึงตลาดทองคำ ว่าจะมีแนวโน้มในครึ่งปีหลังเป็นอย่างไร รวมทั้งอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ รวมถึงโอกาสและจังหวะในการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ

ด้าน นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า กบข. เป็นกองทุนที่ดูแลบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ต้องลงทุนให้ชนะเงินเฟ้อ แต่การลงทุนต้องมองดูภาพรวมของเศรษฐกิจด้วย ตอนนี้หลายอุตสาหกรรมยังมีการเติบโตให้ผลตอบแทนที่ดียังมีอยู่ ซึ่งการลงทุนของ กบข.มีการลงทุนทั้งในตลาดหุ้น และนอกตลาด ซึ่งยังมีการขยายตัวอยู่

“การมีสงครามการค้า อาจทำให้ความสามารถในการแข่งขันในบางอุตสาหกรรมลดลง เราก็จะลดการลงทุนในกลุ่มนั้นๆ แต่โดยรวม ไทยยังมีการปรับตัวดีขึ้น คาดหวังว่าครึ่งปีหลัง ผลตอบแทนจากบริษัทจดทะเบียนจะดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยต้นทุนราคาหุ้น เมื่อเทียบกับผลตอบแทน เป็นระดับที่น่าสนใจในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่ต้องเลือกว่ากลุ่มอุตฯ ไหน มีการเติบโตอย่างไร ซึ่งการเจรจา การค้ากับสหรัฐก็สำคัญ ต้องดูว่ากระทบแค่ไหน และจะปรับตัวอย่างไร เรามองว่าบริษัทในตลาดหุ้นมีความแตกต่างกัน การลงทุนในตลาดหุ้น ก็ยังมีการลงทุนต่อเนื่องแต่ต้องเข้าใจบริษัทต่างๆ และบริษัทในตลาดหุ้นก็ต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนด้วย”

นายทรงพล กล่าวต่อว่า กบข. ลงทุนถือหลักทรัพย์เป็นเวลานาน เราไม่ลงทุนแบบซื้อเช้า ขายเย็น แต่มองหลักทรัพย์ทุกประเทศ อยากได้หุ้นที่มีราคาดี และมีผลตอบแทนจ่ายปันผลดีในมุมของตลาดทุนไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แต่ยังมองว่าตลาดทุนไทยยังไปต่อได้ แต่นักลงทุนต้องการความโปร่งใส เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในตลาด กบข.ยังเชื่อมั่นในตลาดไทย และมองถึงการลงทุนในระยะยาว

“คิดว่าในไทย มองดูบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดอย่าเหมาเข่ง และมองว่าหุ้นต้องขึ้นไปเท่าไร บริษัทไม่น้อยมีราคาต่ำกว่าบุ๊กแวลู หรือราคาที่ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงตามบัญชี ในฐานะนักลงทุนต้องมองว่าจะลงทุนอย่างไร จะได้ผลตอบแทนที่เหมาะสม ตลาดที่ผันผวนไม่ใช่สิ่งที่ชอบจึงมองว่าองค์ประกอบประเทศไทย ทำอย่างไรไม่ให้ตลาดผันผวนและโปรแกรมเทรดมีไม่มากเกินไป หน้าที่ของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงนักวิเคราะห์ ต้องทำหน้าที่ให้ดี เพราะไม่มีนักลงทุนรายใดที่ชอบความผันผวนมีแต่นักเก็งกำไร จะชอบความผันผวน”