ตอกเศรษฐกิจซบ! คนหัน “ซ่อมรถ”แทนซื้อใหม่ ยอดอะไหล่พุ่ง สวนทางยอดขายร่วง

2025-05-23 IDOPRESS

ตอกย้ำเศรษฐกิจไทยซบ คนหันซื้ออะไหล่ซ่อมรถแทนซื้อใหม่ ชี้ภาพรวมตลาดรถยังวิกฤติ ยอดผลิตเม.ย.ต่ำสุดรอบ 44 เดือน แต่ยังดีส่งออกรถนั่งอีวีเป็นครั้งแรก

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะโฆษกฯ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดยานยนต์เดือน เม.ย. 68 ว่า เป็นที่น่าสังเกตมูลค่าอะไหล่รถจักรยานยนต์ เดือน ม.ค.–เม.ย. มีมูลค่า 844 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 26.01% สวนทางกับมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ อยู่ที่ 21,867 ล้านบาท ลดลง 8.82% มูลค่าชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ อยู่ที่ 685 ล้านบาท ลดลง 17.35%  ถือเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ดี ส่งผลให้เจ้าของรถจักรยานยนต์ หันมาซื้ออะไหล่มาซ่อมรถแทนมากกว่าซื้อรถใหม่ ทำให้ยอดขายอะไหล่รถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น   

ส่วนภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยยังไม่ฟื้น โดยเฉพาะยอดการผลิตเดือน เม.ย. อยู่ที่ 104,250 คัน ลดลง 0.40% ต่ำสุดในรอบ 44 เดือน เนื่องจากความต้องการทั้งในและต่างประเทศชะลอตัว โดยยอดขายรถยนต์ในประเทศ มี 47,193 คัน ลดลง 15.42% จากเดือน มี.ค. 68 แต่เพิ่มขึ้น 0.97% จากเดือน เม.ย. 67 เพราะการขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายรถกระบะ ลดลง 21.7%  และรถพีพีวี ยังคงลดลง 20.5% จากมาตรการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะจากหนี้ครัวเรือนสูง โดยผู้ขอสินเชื่อกว่า 50% ยังถูกปฏิเสธ หากรัฐบาลไม่แจกเงิน 10,000 บาทแล้ว ต้องหามาตรการสนับสนุนการสร้างงาน และต้องติดตามการเจรจากับสหรัฐเป็นอย่างไร 

“ยอมรับว่า สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ยังอยู่ในช่วงวิกฤติ ต้องจับตาดูต่อไปอีก 2-3 ปี จึงจะบอกได้ว่าพ้นจากวิกฤติหรือไม่ และต้องรอเวลาอีก 1-2 เดือนจะเห็นความชัดเจนเรื่องการเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐ ส่วนปีนี้จะปรับเป้าการผลิตรถยนต์หรือไม่ จากเดิมคาดการณ์ว่า อยู่ที่ 1.5 ล้านคัน คาดว่า จะมีการปรับเป้ารอตัวเลขอีก 1-2 เดือนจากนี้  แต่เบื้องต้นมองว่า ถ้าจะปรับอาจปรับในส่วนของผลิตเพื่อการส่งออก เดิมอยู่ที่ 1 ล้านคัน อาจลดลงเหลือ 900,000 คัน จากผลกระทบภาษีทรัมป์ ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ต้องดูอีกครั้งว่า เดิมมองไว้ 500,000 คัน จะปรับลดลงหรือไม่ โดยต้องดูจากเศรษฐกิจเป็นหลัก”   

อย่างไรก็ตามในเดือน เม.ย. ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เลยว่า ไทยมีการส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้า 660 คัน เป็นเดือนแรก ส่วนรถยนต์ไฮบริด ส่งออกเพิ่มขึ้น 87.96% แต่จำนวนไม่มาก คงต้องติดตามผลการเจรจาของประเทศไทยและประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยกับสหรัฐต่อไป ขณะที่มูลค่าส่งออก 59,893 ล้านบาท ลดลง 13.54% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์ช่วง 4 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย. 68) อยู่ที่ 290,288 คัน ลดลง 14.79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีมูลค่าการส่งออกรวม 273,187.64 ล้านบาท

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap