ก.ล.ต.เผยปิดบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลไปแล้ว 2.7 หมื่นบัญชี

2025-05-09 HaiPress

ก.ล.ต. เผยปิดบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลไปแล้ว 2.7 หมื่นบัญชี พร้อมปิดกั้นบัญชีหลอกลวงปีนี้ไปอีก 1,379 บัญชี

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายด้านสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) สินทรัพย์ดิจิทัลฯ และ พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา ว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลได้มีการระงับบัญชีต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า ตามข้อมูลจากตำรวจไซเบอร์แล้วประมาณ 27,000 บัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สิน 169.29 ล้านบาท (ณ วันที่ 18 เม.ย. 68) ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ยังได้ปรับกระบวนการ ปิดกั้นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีกระบวนการที่กระชับกว่าเดิม และลดขั้นตอน เพื่อให้รวดเร็วต่อการทำงานอีกด้วย

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ยังได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพื่อปิดกั้นช่องทางหลอกลงทุน โดยในปี 67 มีการปิดกั้นบัญชีหลอกลวงไปแล้ว 3,300 บัญชี และในไตรมาสแรกปีนี้ปิดกั้นเพิ่มอีก 1,379 บัญชี พร้อมกับเปิดเผยรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตรวม 1,339 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง 9 ราย และอีก 4 ราย ดำเนินธุรกิจทั้งด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ ช่วง 4 เดือนแรกของปี ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสหลอกลงทุน รวม 2,735 ครั้ง ผ่านระบบรับแจ้งใน 6 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์สำนักงาน ก.ล.ต. (www.sec.or.th/scamalert) โทรศัพท์ (1207 กด 22) อีเมล ([email protected]) เดินทางมาที่สำนักงาน ระบบบริการสนทนา และไปรษณีย์ โดยมีบัญชีโซเชียลมีเดียเข้าข่ายหลอกลงทุนที่ประสานผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและหน่วยงานภาครัฐเพื่อปิดกั้น จำนวน 1,849 บัญชี โดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ปิดกั้นไปแล้ว 99.94% ภายในเวลา 7 นาที-48 ชั่วโมง และให้คำปรึกษาในเรื่องการหลอกลงทุน จำนวน 886 ครั้ง

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap