ส.อ.ท.ประกาศตั้ง ‘สภาวันอินโนเวชั่น’แห่งแรกในเอเชีย ดึงนวัตกรรมทั่วโลกพลิกโฉมศก.ไทย

2025-02-14 HaiPress

ส.อ.ท.ประกาศตั้งสภาวันอินโนเวชั่นแห่งแรกในเอเชีย ดึงนวัตกรรมทั่วโลกพลิกโฉมเศรษฐกิจไทย พร้อมร่วมอว.เดินทำโรดแม็พเอไอ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  เปิดเผยระหว่างเปิดงานเอฟทีไอ เอ็กซ์โป 2025 เสริมพลังอุตสาหกรรมไทย เพื่ออนาคตไทยที่ยั่งยืน ว่า ส.อ.ท. เตรียมเปิดตัวสภาวันอินโนเวชั่น อยู่ภายใต้การดำเนินงานของส.อ.ท. ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  ตัวแทน 47 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด จะเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยน การยืม นวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ จะเป็นแห่งแรกในเอเชีย ที่จะรวบรวมพันธมิตรด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ ของแต่ละประเทศ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลี คาดว่า ภายใน 1 เดือนหลังจากนี้ จะตั้งสภาวันอินโนเวชั่นแล้วเสร็จ ถือเป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย เพื่อรองรับทิศทางการลงทุนของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อน นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันผู้ประกอบการ ใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน  และอยู่ระหว่างการทำเอไอ โรดแม็พกับอว. เพื่อยกระดับการพัฒนาการแข่งขันเอสเอ็มอีให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป   

“ภาคอุตสาหกรรมต้องพัฒนาและปรับตัวให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้าและเทคโนโลยี ตลอดจนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่คาดการณ์ได้ยากและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นทุกปี ทั้งหมดนี้ คือ ความท้าทายที่ประเทศไทยจะต้องรวมพลังกัน พลิกความท้าทายให้เป็นโอกาสในการพัฒนาประเทศ เร่งเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ต่อยอดการพัฒนาของภาคการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการไทย ขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษา เพื่อสร้างกำลังคนรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พร้อมทั้งวางยุทธศาสตร์ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้”

ส.อ.ท.ได้วางรากฐานการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย รวมทั้งยกระดับเอสเอ็มอี สู่สมาร์ท เอสเอ็มอี ประกอบด้วย

1.Go Digital ล่าสุดได้สั่งการให้กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลของ ส.อ.ท. เตรียมแพ็กเกจโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สำคัญภายใต้โครงการ “Digital One” เพื่อช่วยยกระดับเอสเอ็มอีทั่วประเทศ เช่น โปรแกรมด้านการผลิต ด้านการบัญชี และด้านการควบคุมต่างๆ ที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และช่วยลดรายจ่าย ซึ่งปกติแต่ละโปรแกรมมีมูลค่าเป็นหลักหมื่น หลายโปรแกรมรวมกันเป็นหลักแสน 

โดยได้ให้กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลสร้างและรวบรวมแพ็กเกจที่สำคัญๆ ที่สมาชิก ส.อ.ท.จำเป็นต้องใช้ โดยทุกโปรแกรมจากแพ็กเกจหลักแสนจะลดเหลือเพียง 1,110 บาท เพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถจับต้องและเป็นเจ้าของได้ และนำไปพัฒนาตัวเองได้ทันที ตรงนี้เป็นนโยบายเชิงรุกที่จะช่วยยกระดับให้เป็นสมาร์ทเอสเอ็มอี (Smart SMEs) ได้เร็วขึ้น

2.Go Innovation เป็นเอสเอ็มอี “จิ๋วแต่แจ๋ว” ด้วยนวัตกรรมซึ่งจะคล้ายกับเอสเอ็มอีของไต้หวันและอิสราเอล ล่าสุดทาง ส.อ.ท.ได้ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดตั้งกองทุนนวัตกรรมที่เรียกว่า “Innovation One” โดยกระทรวง อว.ได้ให้งบสนับสนุน 1,000 ล้านบาท และ ส.อ.ท.สมทบอีก 1,000 ล้านบาท รวมเป็น 2,000 ล้านบาท ในกรอบระยะเวลา 3 ปี เพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ และเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และจะบุกเต็มที่ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

3.Go Global จะผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถผลิตและขายสินค้าไปต่างประเทศได้ในมาตรฐานที่ต่างประเทศยอมรับ หากเป็นเอสเอ็มอี ที่เป็นซัพพลายเชนของผู้ส่งออกต่างชาติที่มาตั้งฐานผลิตในไทย จะผลักดันให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อยกระดับมาตรฐานตัวเองไปกับสินค้าต่างๆ

4.Go Green จะผลักดันให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผลิตสินค้า และมีกระบวนการทั้งหมดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรีน คือ สินค้าที่ทั้งโลกต้องการ และขยายตัวต่อเนื่อง หากไม่ปรับตัวจะตกขบวนได้

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap