‘แสนสิริ’ กวาดรายได้ 9 เดือน แตะ 2.88 หมื่นล้านบาท

2024-11-13 HaiPress

อานิสงส์บ้านหรูบูม หนุนรายได้ "แสนสิริ" 9 เดือน แตะ 2.88 หมื่นล้านบาท

นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนปี 2567 รายได้รวมรอบ 9 เดือน อยู่ที่ 28,877 ล้านบาท โตขึ้น 4.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้รวมเฉพาะไตรมาส 3/67 ที่ 9,415 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้จากการขายโครงการในไตรมาส 3 สัดส่วน 2 ใน 3 ยังคงมาจากโครงการแนวราบ โดยมีรายได้หลักมาจากโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรีและซูเปอร์ลักซ์ชัวรีที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาด ทั้งการโอนต่อเนื่องของโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, บูก้าน กรุงเทพกรีฑา, เศรษฐสิริ ดอนเมือง, เศรษฐสิริ บางนา-สุวรรณภูมิ และ เศรษฐสิริ วงแหวน-จตุโชติ 

นอกจากนี้ในส่วนของรายได้จากการขายคอนโดมิเนียมทยอยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นและมีอัตรากำไรขั้นต้นของคอนโดมิเนียมที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์แสนสิริที่มีมาอย่างยาวนานรวมถึงคุณภาพและบริการที่เป็นที่ยอมรับ จนทำให้ระดับสินค้าพร้อมขายของคอนโดมิเนียม (Ready toMove)ณ สิ้นเดือนกันยายนเหลือเพียง6,900ล้านบาทซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำมากหากเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัทและต่ำที่สุดในตลาดยืนยันได้จากความสำเร็จล่าสุดกับการSold Out!ปิดการขายEDGE Central Pattaya(เอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา)เดอะ มูฟ บางนาและเวย์ โพธิสารพัทยาแบรนด์น้องใหม่คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ของแสนสิริราคาจับต้องได้และคอนโดมิเนียมราคาเข้าถึงง่ายในภูเก็ต ดีคอนโด รีฟรวมถึงคอนโดมิเนียมตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เดอะ เบส ไฮท์-เชียงใหม่ที่กลุ่มลูกค้าเชียงใหม่ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์แสนสิริตลอดมารวมทั้งไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่บนทำเลใจกลางเมืองโครงการเอ็กซ์ที พญาไทตลอดจนการจัดแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดที่เข้มข้น จากกลยุทธ์การรักษายอดขายที่ดี

ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิรวม9เดือนที่4,009ล้านบาทโดยเป็นกำไรสุทธิเฉพาะไตรมาส3ของปีนี้ อยู่ที่1,307ล้านบาทจากกระแสตอบรับที่ดีจากโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่หรือReady to Moveของแสนสิริทั้งจากกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติที่ต้องการคอนโดในเมืองและหัวเมืองท่องเที่ยวนอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการJoint Ventureที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในไตรมาส3และรอบ9เดือนจากการโอนคอนโดมิเนียมเดอะ ไลน์ ไวบ์มูลค่าโครงการ4,400ล้านบาทภายใต้การร่วมทุนระหว่างแสนสิริ และ แรบบิท โฮลดิ้งส์ ในกลุ่มบีทีเอสคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่มียอดขายแล้ว75%บนสุดยอดทำเลศักยภาพตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าวนับเป็นผลการดำเนินงานที่เติบโตตามBusiness Directionที่วางไว้

จากผลประกอบการที่รักษาระดับดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดหมุนเวียนด้วยสภาพคล่องกว่า15,000ล้านบาทเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจและจ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดปีนี้ โดยไม่จำเป็นต้องออกหุ้นกู้ชุดใหม่สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารการเงินของบริษัทที่ดีได้เป็นอย่างดี

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap