2024-11-13 HaiPress
โออาร์ลุยแผนดิจิทัล ยกระดับธุรกิจน้ำมัน-ค้าปลีก รับกระแสผู้บริโภคยุคใหม่เปลี่ยนเร็ว เสริมพอร์ตธุรกิจด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ทั้งกระจายสินค้า สร้างประสบการณ์เชิงดิจิทัลให้แก่ลูกค้า เปิดโอกาสธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้พัฒนานวัตกรรม เช่น ธุรกิจเวอร์ชวล แบงก์ และธุรกิจกาแฟ
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ เปิดเผยว่า โออาร์ในฐานะผู้นำธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกชั้นนำของประเทศ ประกาศความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านองค์กรครั้งสำคัญ ผ่านเส้นทางการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ที่จะครอบคลุมในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ มีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรและการส่งเสริมเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งกลุ่มธุรกิจโมบิลิตี้ หรือธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน และไลฟ์สไตล์ เพื่อส่งเสริมการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบริหารสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เพื่อการตัดสินใจ ไปจนถึงการพัฒนาบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
นายภากร สุริยาภิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจดิจิทัลและโซลูชัน โออาร์ กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งนี้จะเป็นมากกว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยเป็นการปรับวัฒนธรรมองค์กรให้พร้อมรับมือกับอนาคต ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยธุรกิจต่างๆ และเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ทั้งยังเสริมสร้างพอร์ตโฟลิโอธุรกิจด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการกระจายสินค้าและการสร้างประสบการณ์เชิงดิจิทัลให้แก่ลูกค้า รวมถึงการเปิดโอกาสธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้พัฒนานวัตกรรม เช่น ธุรกิจเวอร์ชวล แบงก์ และธุรกิจกาแฟ
“โออาร์ ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากร และปลูกฝังวัฒนธรรมดิจิทัลให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร หรือโออาร์ ดีเอ็นเอ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เพื่อให้การปฏิรูประบบดิจิทัลในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกของไทย และช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมต่อไป”