2024-10-31 HaiPress
ขุนคลัง จี้โจทก์ใหญ่ ศก.ไทย แก้ลงทุนต่ำ -หนี้ท่วม อยากเห็นจีดีพี 68 โต 3.5% เตรียมนำที่รถไฟ ธนารักษ์สร้างบ้านราคาถูกช่วยชาวบ้าน
นายพิชัยชุณหวชิรรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ“Thailand 2025: Opportunities,Challenges and theFuture”ว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวค่อนข้างต่ำมาเป็นระยะเวลานานมากกว่า10ปีเห็นได้จากตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีที่ผ่านมาขยายตัวได้1.9%ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้2.7%บวกลบทั้งที่เดิมคิดว่ามันควรจะมากกว่านี้แต่มีน้ำท่วมเข้ามาแทรกส่วนปี68หากอยู่บนพื้นฐานที่เห็นการขยายตัวน่าจะได้ถึง3%
“ผมคิดว่า3%มันเหมือนกับการอยู่ไปแบบไม่ได้มองว่าไทยมีศักยภาพอะไรบ้างมีโอกาสอะไรบ้างเราก็ยอมรับได้แต่ก็คิดว่ามันควรจะขึ้นไปได้มากกว่านี้แต่เราอาจจะมองลึกไปถึงตอนที่ขยายตัวได้ถึง5%เศรษฐกิจมันโตมาในระดับหนึ่งอาจจะเห็นว่าเรียลจีดีพีที่3.5%ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทย มองว่าควรอยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยค่าเงินเฟ้อของไทยอย่างต่ำควรอยู่ที่2%”
ทั้งนี้ เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำมาอย่างยาวนานก่อนจะมองโอกาสและความท้าทายต้องมองดูรอบๆว่าวันนี้เราอยู่ในสภาพอะไรและต้องแก้สภาพที่มีปัญหาอยู่มองเงื่อนไขที่จะเดินไปข้างหน้ามีความพร้อมไหมที่จะเดินไปถึงจะเรียกว่ามีความท้าทายโดยเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยเคยอยู่ที่ประมาณ70-80%ต่อจีดีพีขณะที่ปัจจุบันขึ้นมา90%กว่าต่อจีดีพีและปรับลดลงมาเหลือ89%โดยตัวเลขที่ลดลงไม่ได้เป็นผลจากหนี้ครัวเรือนปรับตัวดีขึ้นหรือลดลงแต่เพราะจีดีพีขยายตัวขึ้นเล็กน้อยประกอบกับสถาบันการเงินชะลอการปล่อยสินเชื่อทั้งประชาชนและภาคเอสเอ็มอีสะท้อนว่าคนที่เป็นกำลังซื้อ ของประเทศกำลังหนี้ท่วม
นายพิชัยกล่าวว่า ขณะที่หนี้สาธารณะของรัฐบาลปัจจุบันอยู่ที่65-66%โดยรัฐบาลพยายามรักษาวินัยการเงินการคลังเพื่อไม่ให้หนี้สูงเกินไป โดยตั้งกรอบไว้ที่70%ต่อจีดีพีซึ่งไม่ควรจะมีหนี้เกิน14ล้านล้านบาทซึ่งปัจจุบันหนี้ครัวเรือนอยู่ที่12ล้านล้านบาทกว่าๆดังนั้นจึงเหลือช่องแค่1ล้านล้านบาทเศษเท่านั้นก็จะเต็มเพดาน จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการให้เหมาะสม ตามข้อจำกัดที่มี
ส่วนนโยบายการเงินของไทยอัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆโดยก่อนหน้านี้อยู่ที่2.5%เป็นระยะเวลานานแต่ก็มีคนเรียกร้องให้ต่ำอีกโดยเฉพาะคนที่มีหนี้เยอะก็อยากเห็นอัตราดอกเบี้ยต่ำคนให้เงินให้สินเชื่อก็อยากจะได้ดอกเบี้ยสูงดังนั้นสภาพคล่องจึงหายไปจากตลาดและเป็นปัญหาที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้
“อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อไม่ได้ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีสภาพคล่องเราเป็นประเทศที่ก่อนต้มยำกุ้งเราขาดสภาพคล่องจนกระทั่งหลังต้มยำกุ้งเรามีสภาพคล่องเหลือแต่การลงทุนของไทยก็มีการลงทุนน้อยเราจึงตกอยู่ในฐานะที่เรียกว่าเป็นเศรษฐีแต่ไม่มีอนาคตเนื่องจากไทยมีการลงทุนต่ำซึ่งแตกต่างจากหลาย10ปีที่ผ่านมา”นายพิชัยกล่าว
สำหรับปัญหาหนี้ครัวเรือนนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไข โดยจะต้องปรับโครงสร้างหนี้ให้กับครัวเรือนอย่างน้อยหนี้ไม่ลดแต่ภาระลดโดยหนี้เท่าเดิมหรือลดลงนิดนึงแต่ภาระการจ่ายลดลงมีโอกาสที่จะจ่ายยาวขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงเช่นเดียวกับที่ธนาคารออมสินดำเนินการมาจึงควรใช้จังหวะที่สถานบันการเงินเราแข็งแรงเข้าช่วย
รมว.คลัง ยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และสมาคมธนาคารไทยเพื่อดำเนินโครงการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับภาคครัวเรือนโดยเฉพาะรถกระบะและอสังหาริมทรัพย์โดยคาดว่าจะได้ความชัดเจนเร็วๆนี้เพื่อให้ประชาชนอยู่ได้ขณะที่สถาบันการเงินก็จะมีโอกาสปล่อยสินเชื่อใหม่เข้าไปในระบบมากขึ้น
ส่วนการลงทุนของนักลงทุนต่างชาตินั้นปัจจุบันแม้จะมีความสนใจเข้ามาจำนวนแต่ต่างชาติที่ต้องการลงทุนต้องการการลงทุนระยะยาวการลงทุนสมัยใหม่หลายแสนล้านบาทซึ่งอยากปักหลักอยู่กับไทยที่มีสัญญาเช่าที่ดินนานเช่น99ปีหากไม่มีสัญญาณให้เช่านานขนาดนี้โอกาสที่จะทำให้การลงทุนนั้นยากขึ้น
“99ปีคือในต่างประเทศเขาเปิดโอกาสให้ต่างชาติใครอยากซื้อที่ดินก็ซื้อได้เลยส่วนการเช่าถ้าจะเอาที่เช่าไปขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็ค่อนข้างยากจึงเป็นที่มาของการเช่ายาวเพื่อมีสิทธิ์ในที่เช่นทรัพย์อิงสิทธิ์ที่จะนำไปขอกู้กับสถาบันการเงินได้แสดงว่ามีสิทธิในการใช้ไปแบงก์กู้ได้อย่ามองว่าทรัพย์พวกนี้จะตกไปที่ต่างชาติอย่างที่ดินของรัฐที่เยอะนั้นก็เอามาสร้างที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อยแล้วก็ให้เช่าในราคาถูกระยะเวลานาน เพื่อเป็นการเสริมการลงทุนเข้ามาในประเทศ“
ขณะเดียวกันจะนำที่ดินของกรมธนารักษ์หรือที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่เป็นของรัฐซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์มานานจะนำมาใช้ในหลักการทรัพย์อิงสิทธิ์โดยจะนำมาจัดสรรให้เป็นที่พักอาศัยสำหรับคนรายได้น้อย99ปีในราคาประมาณ70%ของที่ควรเป็นก็เป็นโอกาสที่ดีของคนรายได้น้อยที่จะมีที่อยู่บนทรัพย์สินบนสัญญา99ปี
“คนรายได้น้อยต้องการอาศัยในตัวเมืองเช่นสีสมสุขุมวิทพระราม4เพราะคนรายได้น้อยต้องการเดินทางถึงที่ทำงานเร็วที่สุดเพื่อใช้แรงงานไม่สามารถอยูาข้างนอกและเสียค่ารถวันละ300บาทได้ฉะนั้นจึงเป็นความจำเป็นของทุกประเทศที่คนรายได้น้อยต้องอยู่ในเมืองได้”