เงินบาทอ่อนค่า 35.16 บาท จับตาการเมืองไทยร้อนแรง

2024-08-15 HaiPress

ค่าเงินบาทวันนี้ 15 ส.ค. เปิดตลาดแตะระดับ 35.16 บาทต่อดอลลาร์ กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งจากปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐ และการเมืองในประเทศ

วันที่ 15 ส.ค. น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 35.14-35.16 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้ (10.05 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.94 บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทกลับมายืนในฝั่งที่อ่อนค่ากว่าแนว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง หลังข้อมูล CPI เดือน ก.ค. ของสหรัฐ ซึ่งออกมาตามที่ตลาดคาด ทำให้โอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่า 25 basis points น้อยลง

นอกจากนี้ ราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (สวนทางเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวขึ้น) รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่มีประเด็นติดตามต่อเนื่อง ก็เพิ่มแรงกดดันให้เงินบาทอ่อนค่ากลับมาด้วยเช่นกัน 

ด้านสกุลเงินเอเชียอื่นๆ เงินเยนยังเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ แม้ว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 ของญี่ปุ่นจะออกมาดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงเช่นกัน เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.ค. ของจีนที่ออกมาสะท้อนภาพปะปน โดยแม้ยอดค้าปลีกจะขยายตัวดีกว่าคาด แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเติบโตต่ำกว่าที่คาดและต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 35.00-35.25 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์การเมืองในประเทศ  ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/2567 ของอังกฤษ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. และผลสำรวจภาคการผลิตเดือน ส.ค. ของเฟดสาขานิวยอร์กและฟิลาเดลฟีย

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
©ลิขสิทธิ์2009-2020 วารสารธุรกิจไทย      ติดต่อเรา   SiteMap